 |
1. Basic English สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ หรือผู้ที่ต้องการ สร้างพื้นฐานของ
การออกเสียงภาษาอังกฤษให้แน่น โดยจะเน้นที่การฝึกออกเสียงตัวอักษรและการผสมเสียงตัวอักษรให้ถูกต้อง คำศัพท์และประโยคง่ายๆ สำหรับกิจวัตรประจำวัน |
 |
2. Intro สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างทักษะการติดต่อสื่อสารภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน โดยบทเรียน
จะเน้นเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิต เช่น การทักทายและสังสรรค์ การสมัครงาน การพบแพทย์ การเดินทาง นอกจากนี้จะสอนการเน้นเสียง และระดับของเสียงที่ควรออกสำหรับประโยครูปแบบต่างๆ |
 |
3. Middle Mastery บทเรียนจะครอบคลุมถึงการใช้ vocabulary, adjectives และ adverbs ที่มีความหมายคล้ายกัน แต่มีระดับของการใช้ที่ต่างกัน การสร้างประโยคด้วยหลักการต่างๆ การแสดงความรู้สึก การสร้างบทสนทนายาวๆ และการใช้ภาษาที่มีบริบททางวัฒนธรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น การใช้สายตาประกอบคำพูด การให้คำชมเป็นต้น |
 |
4. Senior Mastery เป็นระดับสูงสุด ซึ่งจะเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษ ในการติดต่อสื่อสาร
อยู่เป็นประจำ ผู้ที่เตรียมตัวสอบวัดความรู้ภาษาอังกฤษ (เช่น TOEIC หรือ TOEFL) หรือผู้ที่เตรียมตัว
ไปเรียนต่อหรือทำงานในต่างประเทศเป็นต้น |
 |
5. Placement เป็นข้อสอบเพื่อวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษ โดยแบ่งเป็น Vocabulary, Grammar, Listening ผู้สอบจะรู้ว่าตนเองอ่อนหรือเก่งในส่วนใด ต้องปรับปรุงหรือเรียนอะไรเป็นพิเศษบ้าง |
 |
6. Master Pronunciation เป็นระดับพิเศษ ใช้สำหรับฝึกออกเสียงโดยเฉพาะ เนื้อหาจะแบ่งออก
เป็นสองส่วน ใหญ่ๆ คือ Instruction และ Practice นอกจากนี้ ในส่วนของการฝึกที่นอกเหนือ จากระดับคำ
หรือ Useful Phrases นั้น ก็จะประกอบไปด้วยการหัดออกเสียงสำนวนพื้นฐานต่างๆ ที่จำเป็น เช่น การปฏิสัมพันธ์กันในวงสังคมการถามเมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับภาษา และ การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เป็นต้น |